บทความนี้ คัดลอกมากจากหนังสือ "ครบเครื่องเรื่องฟัน FUN"
จัดพิมพ์โดย คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
กลิ่นปากมาจากการดูแลความสะอาดฟันไม่ดีจริงหรือ
ทพ.ดร.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล
โดยทั่วไป เรามักเข้าใจว่าการแปรงฟันที่ไม่สะอาดเพียงพอมีแผ่นคราบจุลินทรีย์สะสมอยู่บนผิวฟันมากๆ ฟันสกปรก จะทําให้เกิดกลิ่นปากเรื่องนี้ถูกต้อง เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะว่าในคนที่มีแผ่นคราบจุลินทรีย์หนามากๆ แปรงฟันไม่สะอาดมาหลายสัปดาห์ติดต่อกันเท่านั้นจึงจะมีโอกาสเกิดกลิ่นปากได้ แต่ในคนส่วนใหญ่แล้ว ความสะอาดในช่องปากไม่ได้ส่งผลโดยตรงที่ทําให้เกิดกลิ่นปาก ทั้งนี้ เป็นเพราะเชื้อโรคที่ทําให้เกิดกลิ่นปากเป็นคนละกลุ่มกับเชื้อโรค ที่ทําให้เกิดฟันผุ เชื้อโรคที่ทําให้เกิดกลิ่นปากเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการออกซิเจน ดังนั้นจึงต้องหาที่หลบอยู่ลึกๆ ที่ออกซิเจนเข้าไม่ถึง ถ้ามีแผ่นคราบจุลินทรีย์หนา มากๆ เชื้อโรคที่ไม่ใช้ออกซิเจนจึงจะเพิ่มจํานวนได้และผลิตกลิ่นออกมาได้
แหล่งหลบซ่อนที่ดีสําหรับเชื้อโรคที่ทําให้เกิดกลิ่นปากมี 2 แหล่งหลักๆ คือ 1. โคนลิ้นที่มีร่องลึกๆ อยู่เป็นจํานวนมาก เมื่อสะสมมากๆ เราจะสังเกตได้ง่ายว่ามีคราบหรือผ้าสีต่างๆ บนโคนลิ้น 2. ร่องลึกปริทันต์ในผู้ป่วยที่เป็นโรคปริทันต์ ที่มีการทําลายกระดูกรองรับพันไปแล้ว ทําให้ร่องลึกมากขึ้น
ดังนั้นในคนที่มีกลิ่นปาก ถ้าแปรงฟันได้สะอาดและไม่ได้เป็นโรคปริทันต์อักเสบแต่อย่างใด ก็ให้ลองตรวจดูที่โคนลิ้นว่ามีคราบหรือฝ้าบนลิ้นหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่ากลิ่นปากนั้นน่าจะมาจากเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่บนโคนลิ้น จึงควรแปรงลิ้นด้วย แปรงลิ้นวันละครั้งก็เพียงพอ ควรแปรงลิ้นก่อนการแปรงฟัน และไม่ควรใช้ยาสีฟันในการแปรงลิ้น เพื่อลดความรู้สึกอยากจะอาเจียน เวลาแปรงให้แลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุดและวางแปรงให้ลึกไปทางโคนลิ้นให้มากที่สุด แปรงจากโคนลิ้นมาที่ปลาย ขณะที่แปรงให้กลั้นหายใจลากแปรง 1 ครั้งจะได้คราบบนลิ้นออกมาให้ล้างแปรงด้วยน้ำสะอาด จากนั้นแปรงซ้ำอีกจนเมื่อเห็นว่าไม่มีคราบติดบนที่แปรงลิ้นแล้วจึงหยุดแปรง สิ่งที่สําคัญที่สุดที่ต้องระวังคือ อย่าแปรงแรงจนเกินไป เพราะอาจเกิด แผลเลือดออกที่ลิ้นได้ ซึ่งจะทําให้เกิดกลิ่นปากมากขึ้น
บ้านทันตแพทย์คลินิก,ทำฟัน,จัดฟัน,ฟอกสีฟัน,รักษารากฟัน,รากฟันเทียม,รากเทียม,ครอบฟัน,ใส่ฟันปลอม,วีเนีย,รักษาฟันหน้าห่าง,ผ่าฟันคุด,ฟันผุ,แปรงแห้ง