บทความนี้ คัดลอกมากจากหนังสือ "ครบเครื่องเรื่องฟัน FUN"
จัดพิมพ์โดย คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
กลิ่นปากจากฟันผุ
ทพ.นพ.ธิติพงษ์ พฤกษศรีสกุล
ฟันผุไม่ได้เกิดจากมีแมงหรือแมลงอะไรมากินฟันทั้งนั้น แท้จริงแล้วเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในช่องปากย่อยสลายน้ำตาลจากคราบอาหาร สร้างเป็นกรดมาทำลายผิวฟันของเรา ทั้งๆที่ฟันของเราเป็นอวัยวะที่แข็งแรงมากที่สุดในร่างกาย แต่แบคทีเรียเหล่านี้สามารถทำลายฟันได้ง่ายๆ โดยใช้น้ำตาลที่มีอยู่ในอาหารของเราเอง
ฟันผุในระยะเริ่มแรก มีการทำลายเฉพาะผิวฟัน จะเห็นฟันมีสีขาวขุ่น หรือเป็นสีน้ำตาล ไม่มีอาการเสียวฟันหรือปวดฟันใดๆ เราจึงมักปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งฟันผุลุกลามต่อไปยังเนื้อฟัน เมื่อฟันผุลุกลามจนถึงชั้นเนื้อฟันจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้เมื่อดื่มน้ำร้อน น้ำเย็น หรือรับประทานอาหารหวานจัด
หากยังปล่อยทิ้งไว้ ฟันผุจะลุกลามถึงเส้นประสาทภายในโพรงฟัน ทำให้มีอาการปวดฟันรุนแรง เกิดการอักเสบติดเชื้อภายในโพรงฟัน ทำให้มีอาการปวดฟันรุนแรง เกิดการอักเสบติดเชื้อภายในตัวฟัน มีกลิ่นจากเศษอาหารที่เข้าไปหมักหมมในรูฟันผุ และเกิดกลิ่นเหม็นของหนองออกมาจากตัวฟัน การรักษาในระยะนี้ไม่สามารถอุดฟันได้แล้ว ต้องรักษารากฟัน หรือถอนฟันออก ฟันผุระยะแรกๆยังไม่มีกลิ่น แต่หากฟันผุลุกลามไปมากจะมีกลิ่นจากแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองและเศษอาหารที่เน่าเหม็นอยู่ในตัวฟัน
การแก้ไขกลิ่นปากจากฟันผุ ทำได้โดยไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยการอุดฟันจะสามารถเก็บรักษาฟันไว้ได้เหมือนปกติ แต่หากฟันผุลุกลามไปมาก อาจเกิดความเจ็บปวดหรือเสียวฟันขณะรักษาได้ ตัวฟันสูญเสียความแข็งแรงไปทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ดี อาจต้องถอนฟัน หรือรักษารากฟัน ซึ่งจะเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น ฟันที่รักษารากฟันแล้วหรือฟันปลอมก็ไม่มีความแข็งแรงเท่าฟันธรรมชาติทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ดีเหมือนเดิม
เราจึงควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาฟันผุเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้สามารถตรวจพบฟันผุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และเก็บรักษาฟันไว้ได้นานที่สุด ทำให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งเรื่องการพูก การรับประทานอาหาร และการเข้าสังคม
บ้านทันตแพทย์คลินิก,ทำฟัน,จัดฟัน,ฟอกสีฟัน,รักษารากฟัน,รากฟันเทียม,รากเทียม,ครอบฟัน,ใส่ฟันปลอม,วีเนีย,รักษาฟันหน้าห่าง,ผ่าฟันคุด,ฟันผุ